Healthy Food

"ไขมันทรานซ์" ไขมันวายร้าย

อาหารที่เราบริโภคมักมีไขมัน 4 ชนิดปะปนอยู่ในสัดส่วนที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันที่ใช้ทำอาหาร ได้แก่ ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว ไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่งซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ  ส่วนไขมันเลวได้แก่ ไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานซ์ จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่า ไขมันทรานซ์ร้ายกาจกว่าไขมันอิ่มตัวเสียอีก เพราะมีผลต่อการเพิ่มคอเลสเทอรอลในร่างกายยิ่งกว่าอาหารที่มีคอเลสเทอรอลสูง

ไขมันทรานซ์คืออะไร 

   เกิดจากกระบวนการเติมไฮโดรเจนลงในน้ำมันพืชซึ่งเป็นของเหลว ทำให้น้ำมันเปลี่ยนไปเป็นของแข็ง เราเรียกกระบวนการนี้ว่า "ไฮโดรจีเนชั่น" (hydrogenation) ไขมันชนิดนี้มีมากที่สุดในมาจารีนชนิดแท่ง เนยขาว คุ้กกี้ เค้ก แคร็กเกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ โดนัท อุตสาหกรรมการผลิตอาหารนิยมใช้ไขมันทรานซ์แทนไขมันอิ่มตัว เช่น เนย เพราะจะทำให้อาหารคงความแข็งตัวที่อุณหภูมิห้อง นอกจากนี้ไขมันทรานซ์ยังมีอายุการเก็บได้นาน และชะลอการเหม็นหืน โดยที่เนื้อสัมผัสของอาหารไม่แห้ง อาหารอบจะลอกเป็นชั้นได้และมีรสชาติดี

ไขมันทรานซ์ร้ายขนาดไหน?

   ไขมันทรานซ์เหมือนไขมันอิ่มตัวตรงที่เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ โดยการเพิ่มระดับคอเลสเทอรอลที่ไม่ดี (แอลดีแอลคอเลสเทอรอล) แต่งานวิจัยรายงานว่าไขมันทรานซ์ร้ายกว่า เพราะมีผลในการลดคอเลสเทอรอลที่ดี (เอชดีแอล) ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ นักวิจัยพบว่า ไขมันทรานซ์ยังเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ จอประสาทตาเสื่อม โรคนิ่วในถุงน้ำดีและการอักเสบ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเรื้อรังไม่ติดต่อทั้งหลาย ล่าสุดในเดือนมกราคม 2007 มีรายงานว่า ไขมันทรานซ์อาจเพิ่มความเสี่ยงการท้องยากในผู้หญิง

   ไขมันทรานซ์บางชนิดยังพบในผลิตภัณฑ์จากสัตว์เล็กน้อย เช่น ผลิตภัณฑ์นมและเนื้อสัตว์ นักวิจัยพบว่าไขมันทรานซ์ในธรรมชาติไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายเหมือนไขมันทรานซ์ที่แปรรูป

กินอย่างไรให้ปลอดภัย

   สถาบันทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา (Institute of Medicine) มีข้อแนะนำเมื่อปี 2005 ว่า ให้บริโภคไขมันทรานซ์น้อยกว่า 1% ของพลังงาน หรือ 2 กรัมต่อพลังงาน 1,800 กิโลแคลอรี/วัน ซึ่งเป็นปริมาณไขมันทรานซ์ที่คนเราได้รับจากการบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นม

   สมาคมหัวใจและองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ต่างก็แนะนำให้บริโภคไขมันรวมให้น้อยกว่า 35% ของพลังงาน โดยที่ไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% ถ้าคุณบริโภคอาหารที่มีพลังงาน 1,800 กิโลแคลอรี/วัน ก็จะได้ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานซ์ รวม 20 กรัม เฟรนช์ฟรายขนาดใหญ่มีไขมันทรานซ์ประมาณ 6 กรัม

   ปัจจุบันในประเทศสหรัฐอเมริกามีข้อบังคับให้ระบุปริมาณไขมันทรานซ์บนฉลากอาหาร โดยเริ่มตั้งแต่มกราคมปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ผลิตหันมาใช้กรดไขมันอิ่มตัวแทน ซึ่งถ้าไม่อ่านฉลากให้ละเอียดเราอาจจะพลาดได้ แม้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ากรดไขมันอิ่มตัวจะเป็นอันตรายต่อร่างกายเพียงไหน แต่ทางที่ดีที่สุดคือ ควรจำกัดปริมาณไขมันรวมที่บริโภค จะช่วยให้จำกัดไขมันทุกชนิดไปในตัว

ปลอดไขมันทรานซ์จริงหรือ...

   ฉลากอาหารที่ระบุว่าไขมันทรานซ์เป็น "0" ไม่ได้หมายความว่าปลอดไขมันทรานซ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามกฎระเบียบขององค์การอาหารและยาระบุว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันทรานซ์น้อยกว่า 0.5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค สามารถระบุบนฉลากได้ว่า ไขมันทรานซ์เป็น "0" หรือไร้ไขมันทรานซ์  แม้ว่าปริมาณไขมันน้อยกว่า 0.5 กรัมนั้นเป็นปริมาณเพียงน้อยนิด แต่ถ้าบริโภคเป็นประจำ จำนวนน้อยนิดรวมกันทั้งวันและทุกวันก็กลายเป็นมากได้ ตัวอย่างเช่น อาหารที่มีไขมันทรานซ์ 0.4 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค แต่ถ้าบริโภค 5 หน่วยบริโภคก็จะได้ไขมันทรานซ์ 2 กรัม ฉะนั้นอ่านฉลากเพียงอย่างเดียวยังไม่พอ ดังนั้นสิ่งที่ควรปฏิบัติเพิ่มขึ้นคือ

  • อ่านฉลากอาหารเพื่อดูปริมาณไขมันทรานซ์และเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันที่ต่างยี่ห้อกัน เลือกชนิดที่เป็น "0"
  • อ่านองค์ประกอบของอาหาร ดูว่ามีไขมันทรานซ์ หรือข้อความ "partially hydrogenated oil" หมายถึงน้ำมันแปรรูปจากการเติมไฮโดรเจนบางส่วน หรือไม่
  • ระวังขนาดหรือปริมาณอาหารที่มีไขมันแปรรูป เพราะถ้าคุณกินมากกว่าหนึ่งหน่วยบริโภคคุณก็จะได้มากขึ้น ลองคิดถึงคุ้กกี้ มันฝรั่งทอดกรอบ แครกเกอร์ คุณจะได้ไขมันทรานซ์มากกว่าที่ระบุไว้เสมอ แม้ว่าในฉลากจะระบุว่าเป็น "0" ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
  • อย่าลดไขมันทรานซ์โดยกินไขมันอิ่มตัวแทน สิ่งที่ควรทำคือ เลือกอาหารที่มีไขมันทั้งสองชนิดต่ำไว้เสมอ
  • จำกัดขนมอบกรอบ มาจารีนชนิดแท่ง ฟาสต์ฟู้ด เฟรนช์ฟราย ทั้งหมดนี้มีผลต่อการเพิ่มปริมาณไขมันและน้ำหนักตัว
  • อย่าปล่อยให้คำว่า"ไร้ไขมันทรานซ์"เป็นไฟเขียวที่จะทำให้บริโภคอาหารนั้นเพิ่มขึ้น แม้ไร้ไขมันทรานซ์ไม่ได้หมายความว่าอาหารนั้นจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงเสมอไป

Related post

2 Comments

  1. 27 Aug 2018
    Brandon Kelley

    Neque porro qui squam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit amet, consectetur, adipisci velit, sed quia non numquam eius modi tempora.

    Like Reply
    1. 27 Aug 2018
      Brandon Kelley

      Neque porro qui squam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit amet, consectetur, adipisci velit, sed quia non numquam eius modi tempora.

      Like Reply
  2. 27 Aug 2018
    Brandon Kelley

    Neque porro qui squam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit amet, consectetur, adipisci velit, sed quia non numquam eius modi tempora.

    Like Reply

Leave A Comment

Review & Restaurant
ชวนไปกิน รวมร้านอร่อยเด็ดที่งาน IMPACT X เชลล์ชวนชิม 3
ชวนไปกิน รวมร้านอร่อยเด็ดที่งาน IMPACT X เชลล์ชวนชิม 3
เปิดแล้ว! Tonkatsu AOKI ร้านหมูทอดทงคัตสึต้นตำรับ สาขาใหม่ Velaa สินธรวิลเลจ
เปิดแล้ว! Tonkatsu AOKI ร้านหมูทอดทงคัตสึต้นตำรับ สาขาใหม่ Velaa สินธรวิลเลจ
72 Courtyard เปิดตัวโฉมใหม่พร้อมร้านอาหารและประสบการณ์ไลฟ์สไตล์สุดพิเศษ กิน ดื่ม เที่ยว ครบทุกความสน
72 Courtyard เปิดตัวโฉมใหม่พร้อมร้านอาหารและประสบการณ์ไลฟ์สไตล์สุดพิเศษ กิน ดื่ม เที่ยว ครบทุกความสน
Veggie Shack เบอร์เกอร์สำหรับคนชอบผัก จาก Shake Shack
Veggie Shack เบอร์เกอร์สำหรับคนชอบผัก จาก Shake Shack
ร้าน Cafe Wolseley Bangkok ชวนชิมส่งท้าย ก่อนโบกมือลาเมืองไทย 5 กย.นี้
ร้าน Cafe Wolseley Bangkok ชวนชิมส่งท้าย ก่อนโบกมือลาเมืองไทย 5 กย.นี้
Review: Prix Fixe 3 เมนูคอร์สล่าสุดต้อนรับสปริง-ซัมเมอร์นี้ กับร้าน Cafe Wolseley Bangkok
Review: Prix Fixe 3 เมนูคอร์สล่าสุดต้อนรับสปริง-ซัมเมอร์นี้ กับร้าน Cafe Wolseley Bangkok

Cooking Recipe

View all

Click Now
Populer Post
วิธีทำลาบหมู
วิธีทำลาบหมู
ปอเปี๊ยะกล้วยหอมทอดราดช็อกโกแลต
ปอเปี๊ยะกล้วยหอมทอดราดช็อกโกแลต
วิธีทำ ไข่เจียวพริกน้ำปลา
วิธีทำ ไข่เจียวพริกน้ำปลา
วิธีปอกมังคุดแบบชาวสวนที่แสนง่าย
วิธีปอกมังคุดแบบชาวสวนที่แสนง่าย
รีวิว ฮ่องกงสุกี้ ที่ Hong Kong Suki by fisherman
รีวิว ฮ่องกงสุกี้ ที่ Hong Kong Suki by fisherman
ลาบปลาทับทิม
ลาบปลาทับทิม