Healthy Food

ภรรยาตั้งครรภ์จะทำยังไง

การเปลี่ยนแปลงของร่างกายขณะตั้งครรภ์
เมื่อเริ่มตั้งครรภ์อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายจะทำงานเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้มีการสร้างเนื้อเยื่อต่างๆ สำหรับการเจริญเติบโตของทารก และเพื่อช่วยให้ทารกในครรภ์เติบโตเป็นปกติ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในร่างกายเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ เนื่องจากความพยามยามของร่างกายที่จะปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในร่างกายเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ เนื่องจากความพยายามของร่งกายที่จะปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงจึงมักมีอารมณ์ แปรปรวนง่าย ดังนั้นผู้ใกล้ชิดต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ

อาการที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในระยะตั้งครรภ

1. การคลื่นไส้อาเจียน เป็นอาการที่พบบ่อย และถือเป็นสัญลักษณ์ของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้และอาเจียน เรียกทั่วไปว่าการแพ้ท้อง การแพ้ท้องนี้อาจทุเลาลงได้โดยการกินอาหารหรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว นอกจากนี้การกินอาหารทีละน้อยแต่บ่อยครั้งก็จะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ลงได้มากกว่าการกินอาหารมื้อหนักๆ เพียง 3 มื้อ อาหารที่มีน้ำเช่น นม น้ำแกงหรือน้ำซุป ควรกินในระหว่างมื้อแทนการกินร่วมกับอาหาร อาหารที่หวานจัด หรือมีไขมันสูงจะทำให้อาการคลื่นไส้อาเจียนเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้เพราะจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้มากด้วย

2. ท้องผูก มักเกิดขึ้นในระยะ 2-3 เดือน ก่อนคลอด เนื่องจากเด็กมีขนาดใหญ่ทำให้กดทับลำไส้และเคลื่อนไหวได้น้อย จึงมักมีอาการท้องผูก ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำให้มาก กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น ออกกำลังกายโดยการเดิน หรือทำงานไม่หนักเกินไป

3. การเปลี่ยนแปลงระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายทให้กระเพาะและลำไส้มีการเคลื่อนไหวช้าลง และยังพบว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารน้อยลงทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนาน เป็นเหตุให้เกิดอาการแน่น ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียนได้ง่าย

4. น้ำหนักเพิ่มขึ้น ในระยะตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักมาก ในช่วง 3 เดือน แรกของการตั้งครรภ์ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นน้อยมากเพียง 1-2 กิโลกรัม เนื่องจากในระยะนี้ทารกยังเจริญ เติบโตช้า หลังจาก 3 เดือนแล้ว น้ำหนักจะค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น จนมีอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นราว 5 กิโลกรัม และจะเพิ่มเร็วที่สุดในระยะ 3 เดือน ก่อนคลอด อาจเพิ่มถึง 0.5 กิโลกรัม ต่อสัปดาห์ โดยทั่วไปหญิงตั้งครรภ์ควรจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 11-12 กิโลกรัม ตลอดระยะตั้งครรภ์ น้ำหนักที่จะเพิ่มไม่ควรน้อยกว่า 7 กิโลกรัม และไม่ควรมากกว่า 13 กิโลกรัม ถาน้ำหนักแม่เพิ่มน้อยกว่า 7 กิโลกรัม ทารกที่คลอดมักมีน้ำหนักน้อย และอาจทำให้เสียชีวิตทันทีที่คลอดหรือถ้าอยู่รอดเด็กจะไม่แข็งแรง และอาจมีความพิการทางสมอง แต่การเพิ่มน้ำหนักมากๆ ในระยะตั้งครรภ์ ก็เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจเกิดครรภ์เป็นพิษได้ ซึ่งเป็นอันตรายแก่แม่และทารกในครรภ์ได้มากเช่นเดียวกัน ฉะนั้น หญิงตั้งครรภ์จึงควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มมากจนเกินไป ซึ่งอาจทำได้โดยการหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานมากและมีประโยชน์น้อย เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม และจำกัดขนมหวานต่างๆ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และอาหารที่มีไขมันมากเช่นอาหารทอด อาหารใส่กะทิเป็นตัน

ความต้องการสารอาหารของหญิงตั้งครรภ์
1. สารอาหารที่ให้พลังงาน ได้แก่ อาหารประเภท ข้าว แป้ง น้ำตาล ต้องได้รับพลังงานวันละไม่น้อยกว่า 2300 กิโลแคลอรี อาหารที่ใช้พลังงาน อาหารที่ใช้พลังงานควรมาจากอาหาร คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน

2. ความต้องการโปรตีน หญิงตั้งครรภ์ต้องกินอาหารประเภทโปรตีน เพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้ในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อต่างๆ ทั้งของแม่และทารก ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองทารกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะระยะ 3 เดือนก่อนคลอดจนถึง 6 เดือน หลังคลอด ควรได้รับโปรตีน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือประมาณ 51 กรัมต่อวัน และควรเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพ ซึ่งมาจากเนื้อสัตว์ต่างๆ นม ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง

3. ความต้องการแคลเซียม ร่างกายต้องการแคลเซียมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนที่ 4-9 ของการตั้งครรภ์ และสูงที่สุดก่อนคลอด หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับแคลเซียมวันละ 1200 มิลลิกรัมอาหารที่มีแคลเซียมมากได้แก่ นม ปลาไส้ตันแห้ง กุ้งแห้ง ปลาเล็กปลาน้อย และผักใบเขียวต่างๆ แคลเซียมจะดูดซึมได้ดีถ้าในอาหารมี โปรตีนและวิตามินซี และวิตามินดี

4. ความต้องการเหล็ก ร่างกายต้องการเหล็กมากขึ้น เพื่อใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดงและเนื้อเยื่อต่างๆ สำหรับแม่และทารกทั้งยังต้องสะสมเหล็กเอาไว้ใช้ในระหว่างคลอด หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับเหล็กวันละประมาณ 45 มิลลิกรัม อาหารมีเหล็กมากได้แก่ เครื่องในสัตว์ต่างๆ เช่น ตับ ไต ม้าม ไข่แดง และผักใบเขียว เช่น ผักโขม ตำลึง ใบชะพลู บวบหอม ถ้าแม่ได้รับอาหารที่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอจะเกิดอาหารของโลหิตจางได้ และเพื่อให้การดูดซึมเหล็กเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควรกินอาหารที่มีวิตามินซีสูงร่วมด้วยเช่น ส้ม มะละกอ ฝรั่ง กล้วย

5. ความต้องการไอโอดีน ในระหว่างตั้งครรภ์ต่อมไธรอยด์จะทำงานมากขึ้น ทำให้ ต้องการไอดีนเพิ่มขึ้นด้วย การได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ จะทำให้แม่เป็นคอหอยพอกได้ และถ้าขาดอย่างรุนแรงจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ทำให้ตัวเล็ก แคะเกร็น สติปัญญาต่ำ พิการทั้งทางร่างกายและสมอง หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับไอโอดีนวันละ 175 ไมโครกรัม อาหารที่มีไอโอดีนสูง คือ อาหารทะเลต่างๆ เกลือที่ใช้ควรผสมไอโอดีน

6. วิตามิน มีความสำคัญต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายมาก ช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ให้เป็นไปตามปกติ และช่วยป้องกันโรคขาดวิตามิน ซึ่งอาจเกิดได้ในทารก ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์ควรกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อร่างกายจะได้รับวิตามินอย่างเพียงพอ

อาหารที่หญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง
-อาหารประเภทหมักดอง
-อาหารที่มีรสจัดมากเช่น เผ็ด เค็ม เป็นต้น
-อาหารที่จะทำให้เสาะท้อง หรือท้องเสียได้ง่าย
-อาหารที่ใส่ผงชูรส
-อาหารที่เคยรับประทานแล้วเกิดอาการแพ้เช่นแพ้อาหารทะเล
-อาหารที่มีส่วนผสมของน้ำประสานทอง เช่นลูกชิ้นเด้ง
-อาหารที่ใช้เครื่องปรุงแต่งมาก เช่น แต่งกลิ่น สี และรส ตลอดจนการใช้สารเคมีกันบูด
-เครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ
-เครื่องดื่มชูกำลัง
ข้อควรปฏิบัติสำหรับหญิงตั้งครรรภ์
-ฝากท้องทันทีที่รู้ว่าท้อง
-ไปตามกำหนดหมอนัดอย่างสม่ำเสมอ
-กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
-นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
-ทำจิตใจให้สบายไม่ตึงเครียด
-งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลือกชนิดที่เหมาะสมไม่หักโหม ยกเว้น 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และเดือนสุดท้ายก่อนคลอด
-ดูแลสุขภาพปากและฟัน พบหมอฟันอย่างน้อย 1 ครั้งระหว่างตั้งครรภ์
-ตรวจหลังคลอดเมื่อ 4-6 สัปดาห์
www.horapa.com

Related post

ผัก 37 ชนิดที่ไม่กินไม่ได้
ผัก 37 ชนิดที่ไม่กินไม่ได้
กินผักอย่างไรให้ปลอดภัย
กินผักอย่างไรให้ปลอดภัย
กล้วยหอมยอดผลไม้มหัศจรรย์
กล้วยหอมยอดผลไม้มหัศจรรย์
นมเปรี้ยว
นมเปรี้ยว
กินอะไรให้นัยน์ตาสวย
กินอะไรให้นัยน์ตาสวย
กินอะไรให้ใบหน้าชุ่มชื่น
กินอะไรให้ใบหน้าชุ่มชื่น
Review & Restaurant
72 Courtyard เปิดตัวโฉมใหม่พร้อมร้านอาหารและประสบการณ์ไลฟ์สไตล์สุดพิเศษ กิน ดื่ม เที่ยว ครบทุกความสน
72 Courtyard เปิดตัวโฉมใหม่พร้อมร้านอาหารและประสบการณ์ไลฟ์สไตล์สุดพิเศษ กิน ดื่ม เที่ยว ครบทุกความสน
Veggie Shack เบอร์เกอร์สำหรับคนชอบผัก จาก Shake Shack
Veggie Shack เบอร์เกอร์สำหรับคนชอบผัก จาก Shake Shack
ร้าน Cafe Wolseley Bangkok ชวนชิมส่งท้าย ก่อนโบกมือลาเมืองไทย 5 กย.นี้
ร้าน Cafe Wolseley Bangkok ชวนชิมส่งท้าย ก่อนโบกมือลาเมืองไทย 5 กย.นี้
Review: Prix Fixe 3 เมนูคอร์สล่าสุดต้อนรับสปริง-ซัมเมอร์นี้ กับร้าน Cafe Wolseley Bangkok
Review: Prix Fixe 3 เมนูคอร์สล่าสุดต้อนรับสปริง-ซัมเมอร์นี้ กับร้าน Cafe Wolseley Bangkok
Kita Tea Stand สาขาคลองสี่
Kita Tea Stand สาขาคลองสี่
รสชาติหวานหอมของสตรอว์เบอร์รีที่ติดอยู่ในปากและในใจของผู้คน The Temptation of Strawberry ร้านพอปอัปส
รสชาติหวานหอมของสตรอว์เบอร์รีที่ติดอยู่ในปากและในใจของผู้คน The Temptation of Strawberry ร้านพอปอัปส

Cooking Recipe

View all

Click Now
Populer Post
ชาตะไคร้
ชาตะไคร้
ไอศกรีมวานิลลา
ไอศกรีมวานิลลา
ซุปลูกชิ้นกุ้งกับปวยเล้ง
ซุปลูกชิ้นกุ้งกับปวยเล้ง
แป้งชนิดต่างๆในขนมไทย
แป้งชนิดต่างๆในขนมไทย
แกงเลียง
แกงเลียง
วาซาบิ (wasabi) ทำมาจากอะไร?
วาซาบิ (wasabi) ทำมาจากอะไร?