มะพร้าวและน้ำมันมะพร้าว
มะพร้าวเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติของคนไทย ดังจะเห็นได้จากความแพร่หลายของการใช้กะทิและมะพร้าวขูดในการประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน รวมทั้งการใช้น้ำมันมะพร้าวสำหรับทำอาหารและประโยชน์อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหารต้นไม้แห่งชีวิต มีแต่ดีและดีกับสุขภาพ
น้ำมันมะพร้าวไม่ทำให้โคเลสเตอรอลสูง ไม่ทำให้เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ตรงกันข้ามจากการวิจัยพบว่า น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (virgin coconut oil) ช่วยลดโคเลสเตอรอลรวม LDL และเพิ่ม HDL ซึ่งดีกับสุขภาพของหัวใจ
มะพร้าวไม่ทำให้อ้วน แต่เป็นอาหารช่วยลดน้ำหนัก จากการวิจัยพบว่า กรดไขมันอิ่มตัวในมะพร้าวช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย
มะพร้าวต้านเชื้อโรคหลากหลายชนิด ทั้งไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว และเชื้อโรคอื่นๆ ช่วยป้องกันโรคติดต่อต่างๆ แต่พิเศษกว่าที่มีคุณสมบัติต้านไวรัสเอชไอวีด้วย นักโภชนาการจึงเทียบค่ามะพร้าวเป็น functional food กล่าวคือ นอกจากเป็นอาหารแล้วยังมีสรรพคุณป้องกันและรักษาโรคได้
น้ำมันมะพร้าวบำรุงเส้นผม ให้อ่อนนุ่มเป็นเงางาม ช่วยรักษาผิวให้อ่อนเยาว์ด้วยการกำจัดเซลล์ผิวหนังตายที่ทับถมกันจนทำให้ผิวแห้ง รักษาโรคผิวหนัง อีกทั้งป้องกันรังแค
น้ำมันมะพร้าวในครัวไทย
คนไทยสมัยก่อน มักมีต้นมะพร้าวภายในบริเวณบ้านเพื่อเก็บผลมาใช้ทำอาหาร และใช้ส่วนอื่นๆของมะพร้าวให้เป็นประโยชน์กับการดำเนินชีวิต ดังที่เรียกขานกันว่ามะพร้าวคือ ต้นไม้แห่งชีวิต แทบทุกบ้านรู้จักนำเนื้อมะพร้าวที่เหลือมาคั้นกะทิและเคี่ยวเอาน้ำมันไว้ใช้ประโยชน์
ทางเลือกในการใช้น้ำมันมะพร้าวปรุงอาหาร
น้ำมันมะพร้าวสำหรับการบริโภคที่มีวางจำหน่ายในเมืองไทย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
1. น้ำมันมะพร้าวกลั่นจากโรงงาน (refined) หรือน้ำมันมะพร้าวที่ผ่านกรรมวิธี เป็นน้ำมันที่หีบจากมะพร้าวแห้ง แล้วผ่านกรรมวิธีกำจัดกรด ฟอกสี และกำจัดกลิ่น แต่ที่บรรจุขายในปี๊บ เป็นน้ำมันมะพร้าวผสมน้ำมันปาล์ม ในอัตราส่วน 1:1 หรือมากกว่า ส่วนน้ำมันมะพร้าว 100% มักนำส่งป้อนโรงงานผลิตไอศกรีม เครื่องสำอาง และสบู่ เป็นหลัก
2. น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (virgin coconut oil) ที่สกัดด้วยวิธีหมักกะทิให้ตกตะกอนแยกชั้นกาก ชั้นน้ำมัน และชั้นน้ำ แล้วตักเฉพาะน้ำมันมากรองบรรจุใส่ขวด สีน้ำมันจะใสขาว
3. น้ำมันมะพร้าวธรรมชาติแบบเคี่ยว เป็นวิธีการดั้งเดิมที่เคี่ยวหัวกะทิจนแตกมัน น้ำระเหยไปหมด เหลือเพียงน้ำมัน