"น้ำชา" ฟังดูเก่า ๆ แก่ ๆ แต่คุณรู้มั้ยว่าเป็น เครื่องดื่มที่คนทั่วโลกนิยมชื่นชอบดื่มกันมาก รองจากน้ำเปล่า ซึ่งในปัจจุบันน้ำชากำลังได้รับความนิยมบริโภคกันทั่วโลก โดยสำรวจพบว่ามีการบริโภคกันมากกว่า 800 ล้านถ้วยต่อวัน (โหย..)
โดยในบรรดาชาทั้งหลายแล้ว ชาเขียวกำลังเป็นกระแสความนิยมจากผู้คนทั่วโลกเป็นอันดับหนึ่ง ก็เพราะสรรพคุณที่มีอยู่มากมายนั่นแหล่ะ อัตราการบริโภคชาเขียวจึงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ทั้งในประเทศตะวันออกและตะวันตก อาจกล่าวได้ว่าชาเขียวเปรียบเสมือน "น้ำอมฤต" (ชอลิ้วเฮียง มาเองเลยเนี้ย) ยิ่งกว่านั้นในประเทศแถบตะวันออกเชื่อกันอย่างจริงจังว่า ชาเขียวมีฤทธิ์ในการบำบัดรักษาโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนมีคำกล่าวว่า "ดื่มชาเขียวดีกว่ากินยา" อีกนะ
สารประกอบและสรรพคุณของชาเขียว
จากการศึกษา และรายงานทางการแพทย์มากมาย โดยสถาบันที่เชื่อถือได้ต่างก็ยืนยันว่า ชาเขียวมีสรรพคุณมหาศาล ในการบำบัดรักษาโรคทั้งสาร แคเทชิน (Catechin), สารในกลุ่มพอลิฟีนอลส์ ที่สำคัญ ๆ เช่น เอพิแคเทชิน (epicatechin, EC), เอพิกัลโลแคเทชิน (epigallocatechin, EGC), เอพิแคเทชิน กัลเลต (epicatechin gallate, ECG) และ เอพิกัลโลแคเทชิน กัลแลต (epigallocatechin gallate, EGCG) นอกจากนี้ก็ยังมีสาร พอลิแซคคะไรด์ (polysaccharides) ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) วิตามินบีรวม วิตามินซี (ชาเขียวหนึ่งถ้วยมีปริมาณวิตามินซีมากกว่าส้มหนึ่งผลอีกนะ) วิตามินอี กรดอาร์-อะมิโนบิวไทริก (R-Amino Butyric Acid) รวมทั้งสารฟลูออไรด์
เยอะแยะไปหมดเลย เอาแบบสรุปเป็นภาษาวัยทีนเลยดีกว่านะ...
สดชื่น...แจ่มใส !!! สดชื่นยังไงหน่ะเหรอจ๊ะ เอาตั้งแต่เริ่มแรกกันเลยนะ ชาช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราสดชื่นสะอาดปลอดโปร่งและน่าอยู่ขึ้น มีงานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ว่า ถุงชา (tea bag) ช่วยบำบัดโรค "sick-house syndrome" หรือ "มลภาวะภายในอาคารเป็นพิษ" (Indoor Air Pollution) ซึ่งเป็นอาการป่วยที่มีสาเหตุมาจากการแพ้อากาศภายในอาคารและบ้านที่พักอาศัย เช่น สารเคมีจากสีทาบ้านหรือจากเฟอร์นิเจอร์ต่า ๆ ภายในบ้านเนื่องจากสารฟอร์มัลดีไฮด์ (formal-dehyde) ที่ผสมอยู่ในสารเคมีเพื่อการตกแต่งบ้าน มักจะส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ อาจเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายเกิดอาการแพ้และมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ จากการทดลองพบว่าใบชาดำหรือชาเขียว ทั้งที่ยังใหม่และที่ใช้แล้ว (ผ่านการชงแล้ว) จะดูดสารนี้ไว้แล้วไม่ปลดปล่อยสารกลับเข้าสู่บรรยากาศหลังจากดูดไว้แล้ว และถ้าทิ้งใบชาไว้ในที่อับหรือปิด เช่น ในตู้เก็บถ้วยชาม ใบชาจะช่วยลดปริมาณของสารฟอร์มัลดีไฮด์ที่มีอยู่ในอากาศอีกด้วย
กำจัดเนื้อร้าย ในชาเขียวมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ ที่จำเป็นต่อการเติบโตหรือการลุกลามของเซลล์มะเร็ง และสามารถทำลายหรือฆ่าเซลล์มะเร็งได้โดยไม่มีผลกระทบกับเซลล์ดีอื่น ๆ ยังมีผลการวิจัยอื่น ๆ อีกพบว่า ชาเขียวอาจจะเป็นอาวุธที่ใช้กำจัดบรรดาเนื้อร้ายต่าง ๆ ให้ราบคาบลงได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งในหลอดอาหารและมะเร็งในตับ เป็นต้น
มีผลการศึกษาชิ้นหนึ่งชี้ชัดว่า ญี่ปุ่นซึ่งมีอัตราของผู้สูบบุหรี่สูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่กลับมีอัตราของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดต่ำสุด เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาประเทศที่พัฒนาอื่น ๆ ทั้งนี้เนื่องมาจากชาวญี่ปุ่นบริโภคชา พร้อมกับอาหารเป็นประจำทุกมื้อมาช้านานแล้ว
เรื่องของหัวใจ??? มีการศึกษาว่า การดื่มชาเขียวช่วยลดอัตราการเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) จากผลการวิจัยอื่น ๆ ยังพบอีกว่า ชาเขียวมีสรรพคุณเทียบเท่ายาแอสไพริน ในการช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจวายและหลอดเลือดสมอง นอกจากนั้นแล้วยังมีการวิจัยพบว่าสตรีชาวญี่ปุ่นอายุ 40 ปีขึ้นไปที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่สูบบุหรี่ แต่บริโภคชาเขียวเป็นประจำประมาณห้าถ้วยต่อวัน มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์
น้ำพุแห่งวัยหนุ่มสาว มีการพิสูจน์แล้วว่าสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียว สามารถช่วยชะลอความชราและคงความเยาว์วัยได้ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวไม่เพียงแต่จะมีประสิทธิภาพสูงมากกว่าวิตามินซีถึง 100 เท่า แต่ยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินอีอีกถึง 25 เท่าในการทำลายอนุมูลอิสระ (สาว ๆ ตาโตกันเชียว)
ต้านโรคไขข้ออักเสบ กล่าวกันว่าชาเขียวช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบรูห์มาติก (rheumatoid arthritis) ที่มักจะเกิดกับสตรีวัยกลางคน อาการของโรคโดยทั่วไปคือมีอาการของการอักเสบบวมแดง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ
ลดระดับคอเลสเทอรอล สารแคเทชินในชาเขียว ช่วยทำลายคอเลสเทอรอล และกำจัดปริมาณของคอเรสเทอรอลในลำไส้ แค่นั้นยังไม่พอ ชาเขียวยังช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่พอดีอีกด้วย
ควบคุมน้ำหนัก ถ้าคุณกำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่ การจิบชาเขียวสามารถช่วยได้ดีทีเดียว จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์พบว่า ชาเขียวช่วยเร่งให้ร่างกายมีการเผาผลาญอาหารและไขมันมากขึ้น ^0^
ต่อสู้กลิ่นปากและแบคทีเรีย ป้องกันฟันผุ การดื่มชาเขียวนอกจากจะทำให้ร่างกายอบอุ่นแล้ว ยังช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่นและป้องกันการติดเชื้อได้ด้วย อันที่จริงแล้วพบว่าชาเขียวเป็นตัวช่วยยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก ต่อสู้กับเชื้อไวรัสในปากโดยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ผลการทดลองชี้ว่ายาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากอย่างเดียวนั้น ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส ผลการศึกษาสรุปว่า สารพอลิฟีนอลส์ในชาเขียวช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียถึง 30% และลดการผลิตของสารประกอบที่เป็นสาเหตุทำให้ลมหายใจเหม็นบูด
นอกจากนี้ชาเขียวมีสรรพคุณช่วยป้องกันฟันผุ โดยช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ชื่อ Streptococcus mutans ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดหินปูนที่มาเกาะฟัน คนส่วนใหญ่จะดื่มชาเขียวหลังอาหาร เพื่อช่วยให้ลมหายใจและกลิ่นปากสะอาดสดชื่น...น
ป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี ข้อมูลในวารสารวิทยาภูมิคุ้มกันทางการแพทย์ และโรคภูมิแพ้ฉบับประจำเดือนพฤศจิกายนตีพิมพ์ไว้ว่า สารแคเทชินในชาเขียวโดยเฉพาะพระเอกตัวเก่ง EGCG มีสรรพคุณป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า ชาเขียวเข้มข้นช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเอชไอวี จับตัวกับเซลล์เม็ดเลือดขาว ชนิดที่มีความสำคัญต่อภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราที่เรียกว่า "ทีเซลล์" (T cells) ซึ่งเป็นด่านแรกที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ ถ้ามีผลการศึกษาเพิ่มเติมยืนยันผลการวิจัยดังกล่าวนี้ นักวิจัยกล่าวว่าจะนำสารในชาเขียวมาใช้ทดลองในการผลิตยาชนิดใหม่ เพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อเอชไอวี
นอกจากประโยชน์และสรรพคุณมากมายจากการดื่มชาเขียวที่บอกไปแล้วนั้น ชาเขียวยังมีประโยชน์อีกมากมายอาทิ ช่วยห้ามเลือดหรือทำให้เลือดไหลช้าลง บรรเทาอาการผื่นคันและแมลงสัตว์กัดต่อย น้ำมันจากต้นชาที่ผสมในแชมพูและครีมบำรุงผิวช่วยบำรุงผิว และทำให้เส้นผมเป็นประกายเงางาม นอกจากนี้นักวิจัยยังกำลังศึกษาเพิ่มเติมว่าชาเขียวอาจจะช่วยป้องกันผิว จากอันตรายของแสงแดดได้
ผลพลอยได้อื่น ๆ จากชาเขียว
นอกจากเราจะได้ประโยชน์ จากการบริโภคน้ำชาจากชาเขียวโดยตรงแล้ว เรายังสามารถนำ "ชาการา" (chagara) ซึ่งเป็นใบชาและน้ำชาที่ผ่านการต้มมาแล้ว มาใช้ประโยชน์อย่างอื่นอีกได้ เนื่องจากใบชาแห้งไม่สามารถย่อยสลายได้ง่าย การนำกลับมาใช้อีกจึงเป็นวิธีรีไซเคิลที่ดีวิธีหนึ่ง แต่ก่อนจะนำมาใช้นั้นควรแน่ใจว่า ใบชาสะอาดและปราศจากเชื้อโรค เพราะการทิ้งใบชา ไว้ในกาน้ำชาเป็นระยะเวลาหนึ่ง อาจเป็นแหละเพาะเชื้อแบคทีเรียได้ หลังจากต้มน้ำชาแล้วให้รีบเทใบชาใส่ภาชนะกรองชา หลังจากนั้นนำใบชาไปตากให้แห้งบนตะแกรงแบน ๆ หรือกระดาษแห้งโดยเกลี่ยใบชาให้กระจายเสมอกัน และหมั่นกลับใบชาไปมาประมาณสองสามครั้งจนใบชาแห้งสนิท เท่านี้คุณก็สามารถใช้ประโยชน์จากใบชาแห้งได้แล้ว อาทิ
ทำความสะอาดพรม นอกจากใบชาแห้งจะเป็นยาดับกลิ่นได้ดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติต่อต้านหรือหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย ก่อนทำความสะอาดพรมด้วยเครื่องดูดฝุ่น ให้โปรยใบชาแห้งบนพรม ให้ทั่วทิ้งไว้สักครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงดูดฝุ่นรวมทั้งใบชาทั้งหมด กลิ่นหอมสะอาดของใบชาเขียวจะช่วยทำให้ห้องสดชื่น รวมทั้งทำความสะอาดพรมด้วย
ทำความสะอาดเครื่องครัว เราสามารถใช้กากชาเขียวดับกลิ่นคาวต่าง ๆ ได้ โดยหลังจากใช้เขียงประกอบอาหารแล้ว ให้นำไปล้างน้ำ หลังจากนั้นเกลี่ยใบชาเปียกให้ทั่วเขียง ทิ้งไว้สักพักใหญ่แล้วจึงใช้ใบชาขัดถูเขียงให้ทั่ว และล้างออกด้วยน้ำสะอาด น้ำชาต้มก็สามารถนำมาใช้ล้างทำความสะอาดเขียงและอุปกรณ์เครื่องครัวอื่น ๆ ได้เช่นกัน
ป้องกันสนิม ใช้ใบชาขัดถูหม้อ หรือกะทะเหล็กป้องกันสนิมได้ สารแทนนิน (tannin) ในใบชาจะจับตัวกับเหล็กและสร้างสารเคลือบบาง ๆ บนพื้นผิวหม้อหรือกะทะเพื่อป้องกันสนิม
น้ำยาบ้วนปาก กลั้วปากด้วยชาเขียวช่วยทำให้ลมหายใจหอมสดชื่น และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในปาก สารฟลูออรีนในชาเขียวช่วยทำให้ฟันแข็งแรง ป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบ ไม่จำเป็นต้องใช้ชาเขียวชงครั้งแรกกลั้วปาก ดื่มชาให้ชื่นใจก่อน หลังจากนั้นคุณสามารถใช้ชาเขียวชงครั้งที่สามหรือสี่ได้ ประหยัดกว่าซื้อน้ำยาบ้วนปากตั้งเยอะ
ประคบดวงตาให้สดใส นำถุงชาที่เปียกและเย็น ทั้งที่ใช้แล้วหรือถุงชาเก่าที่ไม่ได้ใช้ วางบนเปลือกตาจะช่วยคลายความเมื่อยล้าและทำให้ดวงตาสดใส
ผสมน้ำอาบ นำถุงชาใช้แล้วหรือใบชาใส่ถุงผ้าฝ้ายบาง ๆ มัดให้แน่นแช่ทิ้งไว้ในอ่างอาบน้ำอุ่น น้ำอุ่นผสมน้ำชาจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่น เหมือนได้อาบน้ำทิพย์!!!
หมอนใบชา กลิ่นหอมบาง ๆ จากใบชาจะช่วยให้เราหลับสบายขึ้น การดูแลรักษาทำได้ง่ายโดยนำหมอนที่ทำจากใบชาออกตากในที่ร่ม เพื่อระบายอากาศเป็นประจำ สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง
เป็นเครื่องหอม นำใบชามาเผาเป็นเครื่องหอมจะให้กลิ่นหอมบาง ๆ ชื่นใจ
ยาดับกลิ่นในตู้เย็น ให้นำถุงผ้าฝ้ายบ้าง ๆ บรรจุใบชาหรือถุงชาใช้แล้วใส่ไว้ในตู้เย็น สามารถขจัดกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนาในตู้เย็นได้
ปุ๋ย ให้นำกากชาไปใส่ที่กระถางต้นไม้ ใช้เป็นปุ๋ยได้อย่างดีเลยจ๊ะ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดได้จากการบริโภคชาเขียว
อาจจะมีบางคนเกิดอาการแพ้ เนื่องจากการบริโภคชาเขียว ซึ่งพบไม่บ่อยนัก ซึ่งถ้าเกิดอาการดังกล่าวให้หยุดบริโภคชาเขียวและไปพบแพทย์โดยทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีอาการแพ้ที่รุนแรง เช่น หายใจติดขัด รู้สึกแน่นเหมือนมีอะไรติดคอ ริมฝีปาก ลิ้นและใบหน้าบวม หรือเป็นลมพิษ นอกจากนี้ ในบางคนที่บริโภคชาเขียวมากเกินไปเป็นระยะเวลานาน อาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งในหลอดอาหาร และอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยอื่น ๆ เกิดขึ้นได้เช่นกัน ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ถ้าเกิดอาการอย่างเช่น อาการเสียดคอและหน้าอก ท้องเสีย เบื่ออาหาร มีการท้องผูกหรือท้องร่วง มีอาการตกใจหงุดหงิดง่าย และเป็นกังวลนอนไม่หลับ หัวใจเต้นผิดปกติ หรือปวดศีรษะ หรือหากอาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้อีกนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ให้รีบปรึกษาแพทย์ถ้ามีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าอาจเกิดจากการแพ้