โหระพา
ชื่อสามัญ/ชื่ออังกฤษ Sweet Basilชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum basilicum Linn.
วงศ์ Labiatae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
โหระพาเป็นพืชล้มลุก ลำต้นขนาดเล็กมีลักษณะ เป้นสี่เหลี่ยมและเป็นพุ่ม กิ่งก้านมีสีม่วงแดง มีขนอ่อน ๆ ที่ผิวลำต้น ใบรียาวรูปไข่สีเขียว ขอบใบหยักแบบฟันเลื่อย ออกดอกเป็นช่อคล้ายฉัตรที่ยอด ดอกมีทั้งสีม่วงแดงอ่อนและสีขาว เมล็ดมีสีดำมีกลิ่นหอมทั้งต้น
แหล่งที่พบ
พบได้ทั่วไปเพราะนิยมปลูกเป็นพืชสวนครัว
สรรพคุณ
1. แก้ไข้ ปวดศรีษะ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ ขับพยาธิ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องเสีย ช่วยเจริญอาหาร โดยใช้ยอดอ่อนต้มกับน้ำรับประทานเป็นชา หรือรับประทานเป็นผักสด
2. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะและยาระบายอ่อน ๆ เพื่อแก้อาการท้องผูก โดยนำเมล็กแก่แช่น้ำให้พองตัวเต็มที่ รับประทานกับขนมหวานโดยผสมกับน้ำหวานและน้ำแข็ง
3. ใช้รักษาอาการเหงือกอักเสบ เป็นหนองโดยบดใบโหระพาแห้งให้เป็นผงทาบริเวณที่เป็น
4. บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยคั้นน้ำจากใบโหระพาสด ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอ้อย 2 ช้อน รับประทานวันละ 2 ครั้ง พร้อมกับน้ำอุ่น
5. แก้สะอึก โดยใช้ใบโหระพาสดหรือแห้ง พร้อมขิงสดแช่ในน้ำเดือด รับประทานในขณะที่น้ำยังร้อน
6. น้ำมันโหระพาสามารถฆ่ายุงและแมลงได้
7. เมล็ดแก่แช่น้ำใช้พอกแผล บรรเทาอาการฟกช้ำ
ส่วนที่ใช้ประกอบอาหาร
โหระพาเป็นพืชที่มีกลิ่นหอม ช้วยปรุงแต่งกลิ่นรสของอาหารให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น ใบและยอดอ่อนใช้รับประทานเป็นผักสด และช่วยดับกลิ่นคาวของอาหาร เช่น ผัดหอย ผัดเนื้อ และใช้ประกอบอาหารประเภทอื่น ๆ เช่น แกงเลียง แกงเผ็ด น้ำมันโหระพาใช้แต่งกลิ่นซอสมะเขือเทศ ขนมผิง ลูกอม ผักดอง ไส้กรอก และ เครื่องดื่ม
ข้อควรสังเกต/ข้อควรระวัง
เมื่อดื่มน้ำโหระพาคั้น จะทำให้มึนงงและระคายเคืองคอเล็กน้อย
วิธีปลูก
สามารถปลูกโหระพาได้ 2 วิธี คือ ใช้กิ่งปักชำและเพาะเมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย และควรให้น้ำอย่างเพียงพอ