ชาขาว
ก่อนที่ยอดอ่อนคู่แรกของใบชาจะเริ่มผลิบานในช่วงนั้นเองเราจะได้เก็บเกี่ยวชาขาวมาลิ้มรส ซึ่งมีโอกาสให้เก็บได้เพียงไม่กี่วันของฤดูใบไม้ผลิเท่านั้นจุดเด่นของชาขาวที่ไม่เหมือนชาชนิดอื่นๆ
ด้วยลักษณะที่เล็กและบอบบางของ ตูมชาขาว ซึ่งจะมีเส้นขนอ่อนๆสีขาวประกายเงินปกคลุมอยู่ ยิ่งปกคลุมมากเท่าไหร่ยิ่งหมายถึงชาคุณภาพดีมากเท่านั้น ตลอดจนความละเอียดอ่อนในขั้นตอนการผลิต ทำให้ต้องใช้ชาในปริมาณที่มากกว่าชาประเภทอื่นต่อการชงเพื่อให้ได้น้ำชา 1 แก้ว ถึงจะได้น้ำชาขาวสีเหลืองทองอำพัน ซึ่งมีรสชาตินุ่มนวลกลมกล่อมและชุ่มคอแบบธรรมชาติ โดยที่ไม่มีรสขมฝาดแบบชาเขียวหรือชาดำ นี่เองที่เป็นคุณสมบัติเด่นของชาขาว ซึ่งทำให้กลายเป็นของที่หายากและราคาแพง ทั้งๆที่ขั้นตอนการผลิตชาขาวนั้นแสนจะเรียบง่ายและอิงธรรมชาติสุดๆคือหลังจากที่เก็บตูมชาขาวมาได้ปุ๊บก็จะทำการตากให้แห้งทันทีด้วยแสงแดดธรรมชาติ เท่านี้ก็จะได้ใบขาที่หอมกรุ่นซึ่งสามารถนำมาชงดื่มเป็นน้ำชาขาวได้ ด้วยกรรมวิธีที่ไม่ผ่านกระบวนการหมักบ่มเช่นนี้นี่แหละ จึงทำให้ชาขาวยังคงสารต่อต้านอนุมูลอิสระไว้ได้มากกว่าชาเขียวถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังมีคุณค่าวิตามินซี และวิตามินอีอีกด้วย
ดื่มชาขาว วางใจได้เรื่องกาเฟอีน
ข้อดีของชาขาวยังไม่หมดแค่คุณค่าสารอาหารเท่านั้นเพราะในแง่ของสารกาเฟอีน ก็มีการวิจัยพบว่าชาขาวมีปริมาณกาเฟอีนอยู่น้อยกว่าชาชนิดอื่นๆ โดยมีกาเฟอีนอยู่เพียง 15 มิลลิกรัมเท่านั้น ขณะที่ชาเขียวและชาดำจะมีกาเฟอีนอยู่ประมาณ 20 และ 40 มิลลิกรัม ตามลำดับ